เที่ยวบนเขาหน้าร้อน ที่สแตนเซอร์ฮอร์น สวิตเซอร์แลนด์

เที่ยวหน้าหนาวของสวิตเซอร์แลนด์

Ski Holiday ที่ Zermatt ต่อด้วยนั่ง Glacier Express จาก Zermat - St. Moritz

สวิตเซอร์แลนด์ในหน้าหนาวนักท่องเที่ยวจะไม่หนาตาเท่าไรค่ะ เพราะน่าจะกลัวความหนาวกันมั้ง แม้แต่พวกชาวญี่ปุ่นเองก็ไม่เห็นเยอะเท่าไรค่ะ ส่วนใหญ่ Winter Holidays เขาจะมาสกีกันมากกว่าค่ะ นักท่องเที่ยวก็จะเป็นคนสวิสหรือชาวต่างชาติที่ร่ำรวย (อันนี้สามีพูดเอง) จะมาสกีที่สวิตค่ะ โดยเฉพาะที่เมืองเซอร์มาตแห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์รวมของคนมีกะตังมาสกี ดิฉันเองก็อาศัยมากับสามีชาวสวิตค่ะแต่สกีไม่เป็น เลยต้องไป hiking คนเดียวแทน สนุกดีนะ

เมืองเซอร์มาตตั้งอยู่ในคันโตน Wallis ทางตอนใต้ของประเทศค่ะติดกับอิตาลี นักสกีสามารถสกีไปลงที่อิตาลีได้ค่ะ สกีข้ามประเทศกันทีเดียวเชียว เซอร์มาตมีความสูงที่ 1608 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีรถไฟขึ้นไปบนเขาค่ะ ในหน้าร้อนนักท่องเที่ยวทั้งหลายจะไปชมความงามของธารน้ำแข็งและวิวสวยๆ ค่ะ นั่งจิบดริ๊งหรือทานอาหารกันไปแล้วแต่ความต้องการเลยค่ะ

ช่วงหน้าร้อนที่นี่คนเยอะมากๆ ค่ะ จากทุกมุมโลกมาขึ้นชมยอดเขารูปปิรามิด Matterhorn ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชอกโกแลต ทอบเบอโรน เซอร์แมตเข้าถึงได้ทางรถไฟเท่านั้นค่ะ ถือว่าเป็นเมืองปลอดมลภาวะจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของรถยนต์จริงๆ ถ้าจะขับรถมาต้องจอดไว้ที่เขาจัดไว้ค่ะแล้วนั่งรถไฟต่อมาสักพักค่ะไม่นาน 

รูปหน้าร้อนของที่นี่ค่ะ 

 แต่วันนี้ดิฉันจะพาเที่ยวหน้าหนาววววว หลงประเด็นแปร๊บ

หน้าหนาวที่เซอร์มาตช่วงที่มานี่กลางเดือนมกราคมค่ะ อุณหภูมิในเมืองนี่ก็ประมาณ -11 ถึง 5 องศาค่ะ มาครั้งนี้ไม่ได้ขึ้นไป  Matterhorn ค่ะ เพราะไม่ได้เล่นสกีเลยไม่ไปดีกว่า เก็บเงินค่าตั๋วกินหนมจะดีกว่า ช่วงที่มานี่อากาศดีค่ะท้องฟ้าเปิด เห็นยอดปิรามิดทั้งวันค่ะ


ร้านอาหารที่นี่ไม่ค่อยมีให้เลือกมากนักค่ะ ก็ต้องกินๆ กันไปถ้าไม่ชอบอาหารฝรั่งสวิสแล้วจะมีร้านญี่ปุ่นอยู่ค่ะ ส่วนราคาก็มาตรฐานสวิตเซอร์แลนด์ค่ะ แต่ถ้าจะไปซื้อของตามซูเปอร์มาเก็ตก็เป็นอีกทางเลือกค่ะ
ส่วนใหญ่ร้านอาหารสวิสแท้จะเมนูไม่เยอะค่ะ เมนูอาหารสามหน้านี่ก็ถือว่าเยอะแแล้ว ไม่เหมือนอาหารทางฝั่งเอเชียเราหรืออาหารอิตาลีก็มีให้เลือกเยอะหน่อยค่ะ

เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ นะคะ เดินสองชั่วโมงก็ทั้วแล้ว ดิฉันมาอยู่สามวันเต็มๆ ค่ะครั้งนี้ก็ไม่รู้จะไปไหน เดินแล้วกลับมานอนพักที่โรงแรม เดินข้างนอกก็หนาวเนาะ อยู่โรงแรมสบายอุ่นๆ ดูวิวสวยๆ ก็ดีเหมือนกันค่ะ ปกติไปเที่ยวไหนก็ไม่ค่อยได้อยู่โรงแรมนานอยู่แล้ว ครั้งนี้อยู่คุ้มมากๆ

                      นี่เป็นวิวห้องพักค่ะ โชคดีได้อัพเกรดเลยได้เห็นวิวสวยๆ นี่ไปถึงยังตอนสายๆค่ะ 

 พอบ่ายๆ เราก็ออกมาเดินเล่นคนเดียว ทิปคือ กูเกิลสถานที่ค่ะแล้วก็วิว Satellite แล้วก็ดูรูปค่ะ ที่สวิสเซอร์แลนด์จะมีแผนที่ทางเดินอยู่ค่ะเป็นเส้นประสีเขียวๆ เราก็เดินตามค่ะ ไม่หลงแน่นอนแต่ก็ต้องเดินตามเครื่องหมายที่เขาทำไว้นะ

หิมะหนานุ่มมาก อยากกระโดดลงไปนอนแต่ชุดไม่พร้อมค่ะ เลยต้องเดินแบบไม่ให้ชุดเปียก

หน้าหนาวพระอาทิตย์จะตกข้างๆ ยอดเขาเลยค่ะ สวยงาม นี่รีบเดินกลับเข้าห้องพักรอถ่ายรูปโดยเฉพาะ

 วันต่อมาเราก็ออกมาเดินกันอีกค่ะ วันนี้เปลี่ยนทิศทางบ้าง

ทีแรกเลยนี่เดินตามแผนที่ที่เราดูมาก่อน แต่พอมาถึงที่หมายจริงๆแล้ว มันมีทางอื่นๆ อยู่ที่เราสามารถเดินไปได้ค่ะ ก็เดินๆ ไปตามทาง วันนี่มาถึงตรงนี้ได้ก็เพราะตามเด็กสาวคนนึงเขาเดินจูงน้องหมา เลยสะกดรอยตามซะเลยก็เลยเดินเตลิดออกมาไกลอีกหน่อยค่ะ

มุมนี้เดินบนสะพานค่ะ สูงน่าดูลมแรงด้วย

หลังพระอาทิตย์ตกค่ะท้องฟ้าสวยงาม

นี่เป็นวันสุดท้ายที่พักอยู่ตื่นดูพระอาทิตย์ขึ้น จริงก็สายแล้วล่ะ แปดโมงกว่าได้ค่ะ

บรรยากาศตอนกลางคืนที่อาจหนาวประมาณ -10 องศาค่ะ เซอร์มาตเป็นเมืองเล็กๆ น่ารัก โรแมนติก ชอบทุกครั้งที่มาค่ะ 

ซอยนี้จะเป็นซอยบ้านเก่าค่ะ ออกแนวหลอนๆ หน่อย

พรุ่งนี้เช้าเราไปนั่งรถไฟ Glacier Express รถไฟเอ็กเพรสที่ช้าที่สุดในโลกค่ะ จาก Zermatt - St. Moritz
มีโอกาสมานั่งก็เพราะว่ามีตั๋วโปรโมชั่นอยู่ค่ะ พร้อมที่พัก หนึ่งคืนราคาพิเศษซึ่งแน่นอนคุณสามีไม่ปล่อยหลุดมือแน่ๆ













สวัสดีตอนเช้าลากกระเป๋ากันมาที่สถานีรถไฟ เซอร์มาตค่ะ เช็คอินขึ้นขบวน Glacier Express First Class แจ๋วสุดๆ
😆

รถไฟสายนี้สามารถขึ้นได้หลายจุดค่ะ แต่เส้นทางที่นั่งนานที่สุดคือ จาก Zermatt - St Moritz ขึ้นชื่อว่าเอกเพรส ต้องเร็วใช่มั้ย แต่สำหรับสายนี้ ได้ฉายาว่า The slowest Express Train in the Word ค่ะ ก็ไปกันแบบไม่รีบค่ะ ดูวิวกันไป

ในรถก็จะมีหูฟังให้ฟังข้อมูลตามสถานที่ต่างๆ ที่เป็นจุดสำคัญที่รถแล่นผ่านค่ะ จะมีเสียงเตือนในให้เราได้ยินก่อน แล้วเราก็เอาหูฟังเลือกภาษาที่ตัวเองถนัดสุดค่ะ ภาษาเอเชียจะมีแค่ญี่ปุ่นเท่านั้นนะ
ภายในรถก็จะมีอาหารกลางวันขายค่ะ มีเมนูมาให้ แต่ไม่มีมากนักนะคะ ก็พกขนมของว่างขึ้นไปด้วยก็ได้ค่ะเผื่อหิวถ้าหากต้องนั่งนาน แปดชั่วโมง



รถไฟก็จะเล่นไปตามหุบเขาค่ะ จะไต่ไปที่ความสูงที่ต่างๆ กัน ซึ่งหน้าหนาวสองข้างทางก็เต็มไปด้วยหิมะหนาๆ บรรยากาศข้างทางก็สวยงามตามที่เห็นค่ะ

นี่เราพึ่งออกจากสถานีมาได้นิดนึงค่ะ ตอนเช้า แปดโมงแล้ว พระอาทิตย์ขึ้นแล้วแต่ยังไม่ส่องผ่านมายังแถบนี้ค่ะก็จะมึดๆ หน่อย

ที่นี่ Bergun ค่ะ เรามาเล่นสเลดดิ้งกันที่นี่หลังวันคริสมาส กลับบ้านด้วยความบอบช้ำมากมาย

ถึงแล้วค่ะ St. Moritz ที่นี่จะหนาวมากค่ะ ประมาณ -12 ช่วงกลางวันมีแดดออกนะ ถ้ากลางคืนก็ประมาณ -20 น่าจะได้ค่ะ กิจกรรมไม่มีไรเลย 

 

ต้นไม้แช่แข็งก็เพิ่งเคยเห็นนี่ล่ะ

  

คือนี่เราเดินมาหมู่บ้านข้างๆค่ะ เรามาดูการแข่งขัน Bob Run เพราะก็ไม่รุ้จะทำอะไรแล้วกิจกรรมไม่มี 

https://www.instagram.com/p/Bs_F44wniwC/?utm_source=ig_web_options_share_sheet

หนาวเหน็บจากการยืนดูการแข่งขัน แล้วเราก็ต้องเดินกลับ โรงแรมไปเอากระเป๋าไปขึ้นรถไฟกลับบ้านต่อค่ะ ขากลับก็วิวเดิมแต่รถไฟแน่นกว่าเดิมไม่เฟริสคลาสของขนวนรถพิเศษแล้ว แต่เป็นขบวนขนส่งสาธารณะธรรมดาชั้น สอง หาที่นั่งได้ก็ถือว่าดีแล้วจ้ะ

วิวเดินทางกลับบ้านก็เป็นวิวเส้นทางเก่าย้อนมาค่ะ นั่งมาได้ไม่นานก็พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว แสงก็จะสีทองๆ แบบนี้ค่ะ บ๊ายบายกันนะคะสำหรับทริปนี้

                 ig. littlewii